จังหวัด พิจิตร ตั้งอยู่ในภาคกลางตอนบนของประเทศไทย มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 4,319.8 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศโดยรวมเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำ ซึ่งเหมาะกับการเกษตรกรรม โดยเฉพาะการทำนาและปลูกพืชไร่ต่าง ๆ
ข้อมูลภูมิศาสตร์จังหวัดพิจิตร:
ที่ตั้ง
- ตั้งอยู่ระหว่างเส้นละติจูดที่ 16° 07′ เหนือ และลองจิจูดที่ 100° 20′ ตะวันออก
- ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 350 กิโลเมตร
อาณาเขตติดต่อ
- ทิศเหนือ: ติดต่อกับจังหวัดพิษณุโลก
- ทิศตะวันออก: ติดต่อกับจังหวัดเพชรบูรณ์
- ทิศใต้: ติดต่อกับจังหวัดนครสวรรค์
- ทิศตะวันตก: ติดต่อกับจังหวัดกำแพงเพชร
ลักษณะภูมิประเทศ
- พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ของแม่น้ำน่านและแม่น้ำยม ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านจังหวัดและใช้ในการเกษตร
- ดินมีความอุดมสมบูรณ์ปานกลางถึงสูง ทำให้เหมาะกับการทำนาข้าว พืชไร่ และผลไม้ เช่น มะม่วง ส้มโอ
- ไม่มีภูเขาสูงหรือลักษณะภูมิประเทศที่ซับซ้อน ส่วนใหญ่เป็นที่ราบต่อเนื่อง
ภูมิอากาศ
- ภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน แบ่งออกเป็น 3 ฤดู:
- ฤดูร้อน (ก.พ. – พ.ค.)
- ฤดูฝน (มิ.ย. – ต.ค.)
- ฤดูหนาว (พ.ย. – ม.ค.)
- อุณหภูมิเฉลี่ย: ประมาณ 27-29°C
- ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปี: ประมาณ 1,200-1,400 มิลลิเมตร
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจเมือง พิจิตร
จังหวัดพิจิตร เมืองเล็กที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวิถีชีวิตท้องถิ่นที่น่าสนใจ หากคุณกำลังวางแผนเดินทางไปเยือนพิจิตร นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด:
1.บึงสีไฟ
บึงสีไฟ เป็นแหล่งน้ำจืดธรรมชาติขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีชื่อเสียง
ลักษณะทั่วไป
- พื้นที่: ประมาณ 5,390 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลในเมือง ตำบลท่าหลวง ตำบลเมืองเก่า ตำบลโรงช้าง และตำบลคลองคะเชนทร์
- ความลึกเฉลี่ย: ประมาณ 1.5–2 เมตร
- ลักษณะภูมิประเทศ: เป็นบึงน้ำรูปแอก เกิดจากแม่น้ำน่าน
ความสำคัญทางระบบนิเวศ
- เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืดและที่อยู่อาศัยของนกน้ำหลายชนิด
- มีความอุดมสมบูรณ์สูง เนื่องจากมีวัชพืชและอินทรียวัตถุทับถมที่ก้นบึง
สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจ
- สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์พิจิตร: สวนสาธารณะริมบึงที่มีสะพานทอดลงน้ำสู่ศาลากลางบึง
- รูปปั้นพญาชาละวัน: จระเข้ยักษ์ตามตำนานไกรทอง มีความยาว 38 เมตร ภายในเป็นห้องประชุมขนาดเล็ก
- ศาลากลางน้ำ: ศาลาที่ตั้งอยู่บนบึงสีไฟ มีทั้งหมด 4 ศาลา ใช้เป็นที่พักผ่อนและให้อาหารปลา
- สถานแสดงพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ: อาคารรูปดาวเก้าแฉก ยื่นลงไปในบึงสีไฟ แสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดมากกว่า 20 ชนิด
- บ่อจระเข้: มีบ่อจระเข้ 2 บ่อ คือ บ่อเก่าและบ่อใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับจระเข้
2.วัดท่าหลวง
วัดท่าหลวง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่าน บนถนนบุษบา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร วัดนี้มีความสำคัญทั้งในด้านศาสนา ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของจังหวัดพิจิตร
ประวัติและความเป็นมา
- ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2388 ในสมัยรัชกาลที่ 3
- ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. 2492
- พื้นที่วัด มีขนาดประมาณ 46 ไร่ 3 งาน 17.4 ตารางวา
หลวงพ่อเพชร: พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองพิจิตร
ภายในพระอุโบสถของวัดท่าหลวง ประดิษฐาน หลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน สร้างจากทองสัมฤทธิ์ มีขนาดหน้าตักกว้าง 1.40 เมตร สูง 1.60 เมตร
ตามตำนานเล่าว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เจ้าเมืองพิจิตรได้ขอให้แม่ทัพที่เดินทางไปปราบขบถจอมทองนำพระพุทธรูปมาประดิษฐานที่เมืองพิจิตร หลังจากเสร็จศึก แม่ทัพได้นำหลวงพ่อเพชรล่องแม่น้ำปิงมาฝากไว้ที่เมืองกำแพงเพชร ต่อมาเจ้าเมืองพิจิตรได้นำหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานที่วัดนครชุม และในภายหลังย้ายมาประดิษฐานที่วัดท่าหลวง
สถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างสำคัญ
- พระอุโบสถหลังปัจจุบัน สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2452 โดยพระยาพิชัยณรงค์สงคราม (ดิษ) เจ้าเมืองพิจิตร พร้อมด้วยภริยาและบุตรชาย ได้ร่วมกันก่อสร้างพระอุโบสถหลังนี้ขึ้นใหม่
ความศักดิ์สิทธิ์และความศรัทธา
หลวงพ่อเพชรเป็นที่เคารพนับถือของชาวพิจิตรและผู้ศรัทธาทั่วประเทศ เชื่อกันว่าทรงพุทธานุภาพศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนมักมาบนบานศาลกล่าวขอพรในเรื่องต่าง ๆ และเมื่อสมหวังแล้วจะกลับมาแก้บนด้วยของเซ่นไหว้ เช่น หัวหมู เป็ด ไก่ และขนมต่าง ๆ
3.วัดโพธิ์ประทับช้าง
วัดโพธิ์ประทับช้าง เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ใน ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร โดยเป็นวัดที่เกี่ยวข้องกับ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ) กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเชื่อกันว่า ประสูติที่ตำบลนี้
ความโดดเด่นของวัดโพธิ์ประทับช้าง:
- สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ราวปี พ.ศ. 2242–2244
- สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน ณ สถานที่ประสูติของพระเจ้าเสือ
- พระอุโบสถเก่าแก่:
- เป็นศิลปะอยุธยาแท้ ๆ ก่ออิฐถือปูน หลังคาทรงไทย มุขเด็จหน้า-หลัง
- ภายในประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” หรือ “หลวงพ่อยิ้ม” พระพุทธรูปเก่าแก่ศิลปะอยุธยา หน้าตักกว้างประมาณ 3 เมตร
- ต้นตะเคียนยักษ์หน้าวัด:
- เชื่อกันว่ามีอายุหลายร้อยปี เป็นหนึ่งในจุดที่นักท่องเที่ยวมักแวะมาขอพร
- บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น:
- เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และธรรมะ ที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการความสงบและเรียนรู้เรื่องราวของกรุงศรีอยุธยา
