
จังหวัด กาฬสินธุ์ ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย โดยสามารถแบ่งออกเป็นลักษณะเด่น ๆ ได้ดังนี้
1. ที่ตั้งและอาณาเขต
- ตั้งอยู่ทางตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- มีพิกัดทางภูมิศาสตร์ประมาณละติจูด 16°28′ เหนือ และลองจิจูด 103°30′ ตะวันออก
- มีพื้นที่ประมาณ 6,946 ตารางกิโลเมตร
- มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่
- ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดสกลนคร
- ทิศตะวันออก ติดกับจังหวัดร้อยเอ็ด
- ทิศใต้ ติดกับจังหวัดมหาสารคาม
- ทิศตะวันตก ติดกับจังหวัดขอนแก่น
2. ลักษณะภูมิประเทศ
- ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงแบบ ที่ราบสูงโคราช มีลักษณะเป็นลูกคลื่นและที่ราบลุ่มสลับกับภูเขาเตี้ย ๆ
- มีพื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวแม่น้ำ เหมาะสำหรับทำการเกษตร
- มีเทือกเขาภูพานทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญของพื้นที่
3. แหล่งน้ำสำคัญ
- แม่น้ำชี ไหลผ่านทางตอนใต้ของจังหวัด
- ลำน้ำปาว เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านจังหวัดและมี เขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ใช้สำหรับการชลประทานและการประมง
- มีลำน้ำสาขาต่าง ๆ เช่น ลำน้ำพาน ลำน้ำยัง
4. สภาพภูมิอากาศ
- มีลักษณะภูมิอากาศแบบ มรสุมเขตร้อน (Tropical Monsoon Climate)
- มี 3 ฤดู ได้แก่
- ฤดูร้อน (กุมภาพันธ์ – พฤษภาคม) อากาศร้อนและแห้งแล้ง
- ฤดูฝน (มิถุนายน – ตุลาคม) มีฝนตกชุกเนื่องจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
- ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – มกราคม) อากาศเย็นและแห้ง
5. จุดเด่นทางภูมิศาสตร์
- เทือกเขาภูพาน เป็นพื้นที่ป่าที่สำคัญ และเป็นที่ตั้งของ อุทยานแห่งชาติภูพาน
- เขื่อนลำปาว เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
- พื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันตกของจังหวัด มีสภาพเป็นที่สูงและป่าไม้มากกว่าทางตอนกลางและใต้
โดยรวมแล้ว จังหวัดกาฬสินธุ์มีภูมิประเทศที่เหมาะสมทั้งด้านเกษตรกรรม การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภค
ประวัติจังหวัด กาฬสินธุ์
จังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยมีหลักฐานทางโบราณคดีที่บ่งบอกถึงการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์
ยุคก่อนประวัติศาสตร์
จากการขุดค้นทางโบราณคดี พบว่าพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์เคยเป็นแหล่งอาศัยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในเขต อำเภอภูเวียง และอำเภอสหัสขันธ์ ที่มีการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์และร่องรอยของมนุษย์ยุคหิน รวมถึงเครื่องมือหินโบราณ
ยุคอาณาจักรโบราณ
ในช่วงสมัยอาณาจักรขอม (ประมาณพุทธศตวรรษที่ 12-18) กาฬสินธุ์ได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมขอม เห็นได้จากโบราณสถาน เช่น ปราสาทรวง (อำเภอยางตลาด) และ ปราสาทเมืองฟ้า (อำเภอกมลาไสย) ซึ่งมีศิลปะแบบขอม
ยุคอยุธยา – รัตนโกสินทร์ตอนต้น
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาและต้นรัตนโกสินทร์ ดินแดนในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นถิ่นฐานของกลุ่มชนเผ่าลาวและชาวภูไท ซึ่งอพยพมาจากฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง โดยเฉพาะจากเวียงจันทน์ และแคว้นศรีโคตรบูรณ์
การก่อตั้งจังหวัดกาฬสินธุ์
จังหวัดกาฬสินธุ์ถูกตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2480 โดยแยกออกจากจังหวัดมหาสารคาม คำว่า “กาฬสินธุ์” มาจากคำว่า “กาฬ” (ดำ) และ “สินธุ์” (น้ำ) หมายถึงแม่น้ำที่มีสีดำ ซึ่งอาจหมายถึงลำน้ำปาวที่ไหลผ่านจังหวัด
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
1.วัดวังคำ

วัดวังคำ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยลาวที่วิจิตรตระการตา โดยเฉพาะ พระวิหารวัดวังคำ ที่สร้างขึ้นตามต้นแบบของ วัดเชียงทอง ในเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว
ลักษณะเด่นของวัดวังคำ
- พระวิหาร สร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบล้านช้าง มีหลังคาลาดต่ำซ้อนกันหลายชั้น ตกแต่งด้วยลวดลายแกะสลักที่วิจิตรบรรจง
- จิตรกรรมฝาผนัง แสดงเรื่องราวพุทธประวัติและวิถีชีวิตของชาวอีสาน
- พระประธาน ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง
ที่ตั้งของวัดวังคำ
วัดวังคำตั้งอยู่ที่ บ้านหนองบัว ตำบลสงเปลือย อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์
ความสำคัญของวัดวังคำ
- เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธในพื้นที่
- เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัด
- สะท้อนถึงความงดงามของสถาปัตยกรรมล้านช้างและอัตลักษณ์ของชาวอีสาน
วัดวังคำจึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่สนใจสถาปัตยกรรมไทยลาวและวัฒนธรรมท้องถิ่นของภาคอีสาน
2.เขื่อนลำปาว
เขื่อนลำปาว เป็นเขื่อนดินขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ มีความสำคัญทั้งในด้านการชลประทาน การประมง และการท่องเที่ยว
ข้อมูลทั่วไปของเขื่อนลำปาว
- ที่ตั้ง: ตำบลลำปาว อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์
- ประเภทของเขื่อน: เขื่อนดิน
- ความยาวของสันเขื่อน: ประมาณ 33.3 กิโลเมตร
- ความสูงของเขื่อน: ประมาณ 33 เมตร
- ความจุของอ่างเก็บน้ำ: ประมาณ 1,430 ล้านลูกบาศก์เมตร
ประวัติการก่อสร้าง
เขื่อนลำปาวสร้างขึ้นตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำลำปาว โดย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ (รัชกาลที่ 9) ทรงมีพระราชดำริให้สร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการจัดการน้ำเพื่อการเกษตร สร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้งานในปี พ.ศ. 2508
ประโยชน์ของเขื่อนลำปาว
- การชลประทาน: เป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับพื้นที่การเกษตรในจังหวัดกาฬสินธุ์และพื้นที่ใกล้เคียง
- การประมง: เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด และมีการทำประมงเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน
- การท่องเที่ยว: เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีวิวทิวทัศน์สวยงาม โดยเฉพาะ สะพานเทพสุดา ซึ่งเป็นสะพานข้ามอ่างเก็บน้ำที่ยาวที่สุดในภาคอีสาน
- ป้องกันน้ำท่วม: ควบคุมปริมาณน้ำในลำน้ำปาว ช่วยลดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำ
3.สะพานเทพสุดา
สะพานเทพสุดา เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ข้ามผ่าน อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว ในจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อนและชมพระอาทิตย์ตก
ข้อมูลทั่วไปของสะพานเทพสุดา
- ที่ตั้ง: อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์
- ความยาว: ประมาณ 2,040 เมตร
- จุดเด่น: เป็นสะพานข้ามน้ำที่มีวิวทิวทัศน์งดงาม มองเห็นทัศนียภาพของเขื่อนลำปาวแบบ 360 องศา
- การก่อสร้าง: สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อระหว่าง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ และ อำเภอสหัสขันธ์
ไฮไลต์ของสะพานเทพสุดา
- จุดชมวิว: สามารถเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือถ่ายรูปกับวิวสวยๆ ของอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว
- พระอาทิตย์ตก: เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของกาฬสินธุ์
- ร้านค้าและร้านอาหาร: มีร้านค้าขายของฝาก อาหารพื้นเมือง และร้านกาแฟให้นั่งชิลริมสะพาน
- เทศกาลและกิจกรรม: มักมีการจัดงานวิ่ง ปั่นจักรยาน และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว
4.วนอุทยานภูแฝก

วนอุทยานภูแฝก
วนอุทยานภูแฝก เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอหนองกุงศรี มีลักษณะเป็นภูเขาหินทรายเตี้ยๆ ที่เต็มไปด้วยพืชพรรณธรรมชาติ และเป็นสถานที่ชมทัศนียภาพที่สวยงาม
ข้อมูลทั่วไปของวนอุทยานภูแฝก
- ที่ตั้ง: ตำบลหนองกุงศรี อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์
- ลักษณะภูมิประเทศ: เป็นภูเขาหินทรายเตี้ยๆ ที่มีหน้าผาและก้อนหินรูปร่างแปลกตา
- สภาพแวดล้อม: ปกคลุมด้วยป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ มีพืชสมุนไพรและสัตว์ป่าขนาดเล็กอาศัยอยู่
จุดเด่นของวนอุทยานภูแฝก
- จุดชมวิวภูแฝก: สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของพื้นที่โดยรอบได้อย่างชัดเจน
- หินรูปร่างแปลกตา: มีหินที่ถูกลมและฝนกัดเซาะจนเกิดเป็นรูปทรงแปลกๆ
- เส้นทางเดินป่า: เหมาะสำหรับนักเดินป่าที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติ
- ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก: เป็นจุดชมวิวที่มีบรรยากาศดีและเหมาะสำหรับการถ่ายภาพ
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด! จังหวัดนี้เต็มไปด้วยความสวยงามจากทั้งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ มาทำความรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณจะได้สัมผัสกัน!