
จังหวัด บึงกาฬ เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 751 กิโลเมตร มีพื้นที่รวมทั้งจังหวัดประมาณ 4,305 ตารางกิโลเมตร และมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้านดังนี้:
ทิศเหนือ: ติดกับแขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นพรมแดน
ทิศตะวันออก: ติดกับอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม
ทิศใต้: ติดกับอำเภอคำตากล้า อำเภอบ้านม่วง และอำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร
ทิศตะวันตก: ติดกับอำเภอรัตนวาปี และอำเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย
ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดบึงกาฬโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะหลัก:
- พื้นที่เป็นคลื่นลอนลาด กระจายอยู่ทุกอำเภอ เป็นพื้นที่ทำนาส่วนใหญ่และปลูกพืชไร่ พืชสวน และป่าธรรมชาติ
- พื้นที่เป็นคลื่นลอนชันและเป็นเขา มีป่าธรรมชาติ เช่น ป่าไม้เต็งรัง และป่าเบญจพรรณ พบในเขตอำเภอบึงกาฬ อำเภอเซกา อำเภอบึงโขงหลง อำเภอศรีวิไล อำเภอบุ่งคล้า และอำเภอพรเจริญ
- พื้นที่ภูเขาสูงชัน จากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 200 เมตร ขึ้นไป พบในบริเวณเทือกเขาต่างๆ ในเขตอำเภอเมืองบึงกาฬ อำเภอบุ่งคล้า อำเภอเซกา และอำเภอบึงโขงหลง
จังหวัด บึงกาฬ ได้รับการจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554 โดยแยกออกจากจังหวัดหนองคาย และเป็นจังหวัดลำดับที่ 76 ของประเทศไทย
ที่ท่องเที่ยวน่าสนใจใน บึงกาฬ
1.ภูทอก บึงกาฬ

ภูทอก เป็นภูเขาหินทรายที่ตั้งอยู่ในอำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สำคัญของจังหวัด มีจุดเด่นคือ บันไดไม้เวียนรอบภูเขา ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อให้พระภิกษุและนักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปถึงยอดภูได้
ลักษณะของภูทอก
- แบ่งออกเป็น ภูทอกใหญ่ และ ภูทอกน้อย
- วัดเจติยาศรีวิหาร (วัดภูทอก) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์
- ทางขึ้นเป็น บันไดไม้และสะพานไม้ 7 ชั้น โดยชั้นที่ 7 เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของอำเภอบึงโขงหลงและพื้นที่โดยรอบ
ไฮไลต์ของภูทอก
สะพานไม้เวียนรอบภู – สร้างโดยหลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ และศิษยานุศิษย์ เพื่อใช้เป็นเส้นทางขึ้นไปปฏิบัติธรรม
วิวสวย 360 องศา – มองเห็นพื้นที่ป่า ทุ่งนา และหนองน้ำขนาดใหญ่ (บึงโขงหลง)
บรรยากาศเงียบสงบ – เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลีกวิเวก หรือทำสมาธิ
ความหมายของบันได 7 ชั้น
- เป็นสัญลักษณ์ของการก้าวผ่าน ธรรม 7 ขั้น หรืออาจเปรียบได้กับการเดินทางไปสู่ นิพพาน
- ชั้น 1-2 เป็นป่าทึบ
- ชั้น 3-4 มีถ้ำและศาลาปฏิบัติธรรม
- ชั้น 5-6 เป็นลานหินและระเบียงชมวิว
- ชั้น 7 เป็นยอดภูและจุดชมวิวที่สูงสุด
ภูทอกเป็นสถานที่ที่เหมาะทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย และผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรมในบรรยากาศสงบ
2.น้ำตกถ้ำพระ

น้ำตกถ้ำพระ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “น้ำตกถ้ำพระภูวัว” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นของจังหวัดบึงกาฬ ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บ้านถ้ำพระ ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา
🌊 ไฮไลต์ของน้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ
- น้ำตก 3 ชั้นบนภูเขาหินทราย: น้ำตกแห่งนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น ไหลผ่านลานหินทรายขนาดใหญ่ โดยเฉพาะชั้นที่ 2 ซึ่งมีร่องน้ำที่สามารถเล่นเป็นสไลเดอร์ธรรมชาติได้
- สไลเดอร์ธรรมชาติ: ในช่วงฤดูฝน (ประมาณเดือนกรกฎาคมถึงต้นตุลาคม) น้ำจะไหลแรง ทำให้ร่องน้ำบนชั้นหินกลายเป็นสไลเดอร์ธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวสามารถเล่นได้อย่างสนุกสนาน
- บรรยากาศร่มรื่น: พื้นที่โดยรอบน้ำตกร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และมีแอ่งน้ำให้เล่นน้ำคลายร้อน
การเดินทาง
- การเดินทางไปน้ำตก: จากตัวเมืองบึงกาฬ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 212 ผ่านอำเภอโซ่พิสัย มุ่งหน้าอำเภอเซกา ขับตรงไปประมาณ 34 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 2019 ขับตรงไปอีกประมาณ 26 กิโลเมตร จะถึงท่าเรือน้ำตกถ้ำพระ จากนั้นนั่งเรือเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร
ค่าใช้จ่าย:
- ค่าเรือไป-กลับ: คนละ 50 บาท
- ค่าเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า: ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท
3.บึงโขงหลง
บึงโขงหลง เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในอำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ มีพื้นที่ประมาณ 8,062 ไร่ หรือประมาณ 12.89 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งน้ำที่มีความสำคัญทั้งในด้านระบบนิเวศและวัฒนธรรมของท้องถิ่น
🌿 ลักษณะทางภูมิศาสตร์และระบบนิเวศ
- บึงโขงหลงมีลักษณะเป็นบึงน้ำจืดปิดที่เกิดจากคลองและลำธารหลายสายไหลมารวมกัน มีความยาวประมาณ 13 กิโลเมตร และความลึกเฉลี่ย 50-100 เซนติเมตร โดยจุดที่ลึกที่สุดมีความลึกถึง 6 เมตร
- พื้นที่รอบบึงมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีพืชน้ำอย่างน้อย 75 ชนิด พันธุ์พืชบก 256 ชนิด พันธุ์ปลา 64 ชนิด และนก 27 ชนิด นอกจากนี้ยังเป็นจุดดูนกอพยพที่สำคัญ โดยเฉพาะนกจากไซบีเรียและจีน
- พื้นที่รอบบึงส่วนใหญ่เป็นที่ราบ มีการใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตร เช่น ทำนาข้าว และมีชุมชนตั้งอยู่บริเวณปลายสุดทางทิศใต้ของบึง
🐍 ความเชื่อและตำนานท้องถิ่น
- บึงโขงหลงเกี่ยวข้องกับตำนาน “ปู่อือลือนาคราช” ซึ่งเป็นพญานาคที่ถูกสาปให้เฝ้าบึงแห่งนี้ ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของผู้มีศรัทธาในพญานาค
- ใกล้เคียงกับบึงโขงหลงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับตำนานพญานาค เช่น ถ้ำนาคา และภูลังกา ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและสายศรัทธา
🌅 การท่องเที่ยวและกิจกรรม
- บึงโขงหลงได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเชิงนิเวศ มีสวนสาธารณะบึงโขงหลงที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน เดินเล่น และชมวิว